สวัสดีครับพี่ๆ ทุกคน
นี่ก็เป็นบทความแรกบนบล๊อกนี้ของผมนะครับ ก่อนอื่นก็ต้องขอแนะนำตัวก่อนนะครับ เผื่อมีพี่ๆบางคนยังไม่รู้จัก หรือบางคนลืมผมไปแล้ว ผมชื่อแจ้นะครับ ตอนนี้พึ่งเรียนจบปริญญาตรีจากคณะการบริหารจัดการการเกษตร จากประเทศเนเธอร์แลนด์ครับ
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสร่วมทำงานวิจัยกับกรีนเน็ตในหัวข้อเรื่องการพัฒนาตัวชี้วัดความมั่นคงด้านอาหาร ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ผมได้ทำงานที่กรีนเน็ต ส่วนใหญ่ก็จะนั่งทำงานที่ออฟฟิส และก็มีออกไปหาข้อมูลข้างนอกบ้าง (ไปทำงานน่ะครับ) แค่เวลาไม่กี่เดือนมีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ผมได้เรียนรู้ จากความรู้อันน้อยนิดที่มีเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ไทย มีหลายอย่างที่ผมประทับใจที่กรีนเน็ต ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของพี่ๆ ที่ทุ่มเทเพื่อพัฒนาเกษตรอินทรีย์ อาหารอินทรีย์มื้อเที่ยงเพื่อสุขภาพ การพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เช่นตู้อบดอกอัญชัน (so cool!!), การลดความร้อนในออฟฟิสจากไอน้ำ (แม้กระถางจะไม่เป็นใจเท่าไหร่) การแยกขยะและลดการใช้ถุงพลาสติก (ทุกวันนี้ผมไม่เอาถุงพลาสติกเลยนะครับเวลาซื้อของเล็กๆน้อยๆ ยกเว้น ถุง ESPRIT มันสวยดี ฮ่าๆๆ) การสร้างความมั่นคงด้านอาหารบนพื้นที่เล็กๆหลังออฟฟิส ถ้าจะให้บรรยายในนี้คงไม่หมด ก็ต้องขอขอบคุณคุณวิฑูรย์ และพี่ๆทุกคนที่ได้มอบโอกาสในการเรียนรู้และสิ่งดีๆให้ผม
ผมเป็นคนที่ชอบงานพัฒนาอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเข้าไปเห็นการทำงานของพี่ๆที่กรีนเน็ตมันยิ่งทำให้ผมชอบเข้าไปใหญ่ จากการที่ได้มีโอกาสได้ทำงานกับองค์กรที่ถือว่าเป็นแนวหน้าในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ไทยมันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆเลยครับ ผมหวังว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่ๆอีกครั้งนะครับ
Green Net is very big!!! จริงครับ คอนเฟริม!!!
blog รวบรวมข่าวคราว ความคืบหน้า ในงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ และการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ภายใต้สภาวะโลกร้อน
วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552
รายงานเจ้านายอย่างมืออาชีพ
Hello! ขึ้นต้นมาก็ทักเป็นภาษาอังกฤษอย่าคิดว่าภาษาดีนะค่ะ เขียนคำนี้ไม่ผิดเป็นใช้ได้ ไม่มีอะไรมากวันนี้ก็แวะเวียนมาทักทายเพื่อน ๆ น้อง ๆ กันจ้า บังเอิญว่าไปอ่านเจอ เทคนิคการรายงานแบบมืออาชีพ ก็เลยนำมาฝากให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ ได้ลองทำดูสำหรับคนที่คิดว่าทักษะด้านนี้ยังไม่ดีเท่าไร ซึ่ง Jasmine ก็จัดอยุ่ในกลุ่มนี้ด้วย (ประเภทรายงานแบบมือสมัครเล่นอ่ะ) อยากเป็นมือโปรบ้าง งั้นมาดูกันเลยดีกว่าว่าต้องทำอย่างไร รับรองทำได้จริงแน่ หากคุณลงมือทำมันอย่างจริงจัง เทคนิคหลัก ๆ มีดังนี้
[ พูดให้กระชับ เริ่มจากบทสรุป..............]
จัดลำดับในการรายงานให้เริ่มจากสรุป ผลลัพธ์ สาเหตุ/ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ต้องร่ายยาวสาวแม่น้ำทั้ง 5 เพราะกว่าจะรู้เรื่องก็อาจจะทำให้เจ้านายหงุดหงิดเสียก่อน (ยิ่งเจ้านายเราเป็นประเภทงานรัดตัว พูดจากันแบบไม่มองน่าแล้วสำคัญมาก) เอาเป็นสรุปสถานการณ์สั้น ๆ ก่อน เช่นดี ไม่ดี มีปัญหา แล้วจากนั้นก็ค่อยแจ้งผลหรือสถานการณ์ปัจจุบันและบอกถึงสาเหตุที่เราสรุปเช่นนั้น
[ รายงานก่อนที่จะถูกทวงถาม...............]
งานอะไรที่ได้รับมอบหมายมา อย่าคิดว่า “ไม่เห็นมาถามก็ไม่ต้องรายงานก็ได้” แบบนี้ไม่มืออาชีพ เพราะในมุมมองของเจ้านายจะคิดว่า “ อะไรกันนี่ ถ้าไม่ไปถามก็ไม่คิดจะมาบอกเลย” และทำให้เจ้านายหงุดหงิด (อีกแล้วครับท่าน) คุณทราบหรือป่าวการรายงานสถานการณ์อยู่เป็นประจำและต่อเนื่องนั้น หากเกิดอะไรขึ้นในทางที่แย่ลงก็จะได้รับคำแนะนำที่ทันท่วงทีในการแก้ไขปัญหาและทีสำคัญต้องดูเวลาที่เหมาะสมและคนฟังมีเวลาหรือสะดวกที่จะรับฟังหรือไม่ (ไม่งั้นไม่รับรองผลที่จะได้ตามมาอิ อิ)
[ เรื่องร้าย อย่าเก็บไว้จนสายเกินแก้......]
เจ้านายคนไหนก็อยากจะได้รับรายงานแต่เรื่องดี ๆ หล่ะน่า แต่ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเวลาที่ทำพลายหรือเกิดปัญหาอะไรขึ้นในงาน การพยายามแก้ไขเองเก็บไว้ไม่รายงานให้เจ้านายทราบ แต่สุดท้ายเกิดเป็นปัญหาบานปลายเดือนร้อนกันไปหมด (ขนาดนี้แล้วคงไม่ต้องบอกสินะว่าเจ้านายจะทำหน้าอย่างไง คิดเอาเองแล้วกัน???) ฉะนั้น จำไว้ว่ายิ่งเรื่องไม่ดี ยิ่งต้องรีบรายงาน และควรบอกพร้อมกับวิธิแก้ที่เราคิดไว้ ไม่อย่างนั้นคุณจะเจอข้อหา พลาดแล้วโยน !!!! อย่างนี้เสียเครดิตนะจะบอกให้........ใจดีสู้เสือ!!!!!เข้าไว้
[ แยกแยะสิ่งที่เป็นความรู้สึก และสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง...........]
ระวังการรายงานจาก “ความรู้สึก” ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะการรายงานด้วยคำว่า “คิดว่า” “รู้สึกว่า” อาจจะเป็นสาเหตุให้หัวหน้าคุณสรุปผิดทางได้ ดังนั้น เวลารายงานต้องระบุให้ชัดว่าอันไหนคือ ข้อเท็จจริง อันไหนเป็นความคิดของเรา (ทำยากนะเนี่ยเคยทำแล้ว โดนเจ้านายปิดการสนทนาด้วยคำว่าคิดไปเองเสมอ ต้องระวังนะ!!!!)
[ หากเป็นเรื่องที่ซับซ้อน.....ลองรายงานด้วยการเขียน.........]
หากเรื่องที่ซับซ้อนก็ลองเขียนเป็นรายงานแทนสิ และเราเองก็จะได้จัดลำดับความคิดไปด้วยในตัว เพราะบางเรื่องหากพูดอาจจะงงไม่เข้าใจ แต่ก็สามารถอธิบายได้ด้วยภาพหรือกราฟ และหากจำเป็นต้องเขียนอธิบายเพิ่มก็อย่าลืม ! ทำให้สั้นและกระชับนะค่ะพี่น้องค่ะ
เป็นงัยกันบ้างกับวิธีการรายงานเจ้านายอย่างมืออาชีพที่นำมาฝากกัน สิ่งสำคัญต้องฝึกทำบ่อย ๆ นะค่ะ แล้วท่านจะเป็นมืออาชีพในการรายงาน ว่าแล้วก็กลับไปฝึกก่อนนะอย่างเป็นมือโปรบ้าง.........
[ พูดให้กระชับ เริ่มจากบทสรุป..............]
จัดลำดับในการรายงานให้เริ่มจากสรุป ผลลัพธ์ สาเหตุ/ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่ต้องร่ายยาวสาวแม่น้ำทั้ง 5 เพราะกว่าจะรู้เรื่องก็อาจจะทำให้เจ้านายหงุดหงิดเสียก่อน (ยิ่งเจ้านายเราเป็นประเภทงานรัดตัว พูดจากันแบบไม่มองน่าแล้วสำคัญมาก) เอาเป็นสรุปสถานการณ์สั้น ๆ ก่อน เช่นดี ไม่ดี มีปัญหา แล้วจากนั้นก็ค่อยแจ้งผลหรือสถานการณ์ปัจจุบันและบอกถึงสาเหตุที่เราสรุปเช่นนั้น
[ รายงานก่อนที่จะถูกทวงถาม...............]
งานอะไรที่ได้รับมอบหมายมา อย่าคิดว่า “ไม่เห็นมาถามก็ไม่ต้องรายงานก็ได้” แบบนี้ไม่มืออาชีพ เพราะในมุมมองของเจ้านายจะคิดว่า “ อะไรกันนี่ ถ้าไม่ไปถามก็ไม่คิดจะมาบอกเลย” และทำให้เจ้านายหงุดหงิด (อีกแล้วครับท่าน) คุณทราบหรือป่าวการรายงานสถานการณ์อยู่เป็นประจำและต่อเนื่องนั้น หากเกิดอะไรขึ้นในทางที่แย่ลงก็จะได้รับคำแนะนำที่ทันท่วงทีในการแก้ไขปัญหาและทีสำคัญต้องดูเวลาที่เหมาะสมและคนฟังมีเวลาหรือสะดวกที่จะรับฟังหรือไม่ (ไม่งั้นไม่รับรองผลที่จะได้ตามมาอิ อิ)
[ เรื่องร้าย อย่าเก็บไว้จนสายเกินแก้......]
เจ้านายคนไหนก็อยากจะได้รับรายงานแต่เรื่องดี ๆ หล่ะน่า แต่ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเวลาที่ทำพลายหรือเกิดปัญหาอะไรขึ้นในงาน การพยายามแก้ไขเองเก็บไว้ไม่รายงานให้เจ้านายทราบ แต่สุดท้ายเกิดเป็นปัญหาบานปลายเดือนร้อนกันไปหมด (ขนาดนี้แล้วคงไม่ต้องบอกสินะว่าเจ้านายจะทำหน้าอย่างไง คิดเอาเองแล้วกัน???) ฉะนั้น จำไว้ว่ายิ่งเรื่องไม่ดี ยิ่งต้องรีบรายงาน และควรบอกพร้อมกับวิธิแก้ที่เราคิดไว้ ไม่อย่างนั้นคุณจะเจอข้อหา พลาดแล้วโยน !!!! อย่างนี้เสียเครดิตนะจะบอกให้........ใจดีสู้เสือ!!!!!เข้าไว้
[ แยกแยะสิ่งที่เป็นความรู้สึก และสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง...........]
ระวังการรายงานจาก “ความรู้สึก” ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะการรายงานด้วยคำว่า “คิดว่า” “รู้สึกว่า” อาจจะเป็นสาเหตุให้หัวหน้าคุณสรุปผิดทางได้ ดังนั้น เวลารายงานต้องระบุให้ชัดว่าอันไหนคือ ข้อเท็จจริง อันไหนเป็นความคิดของเรา (ทำยากนะเนี่ยเคยทำแล้ว โดนเจ้านายปิดการสนทนาด้วยคำว่าคิดไปเองเสมอ ต้องระวังนะ!!!!)
[ หากเป็นเรื่องที่ซับซ้อน.....ลองรายงานด้วยการเขียน.........]
หากเรื่องที่ซับซ้อนก็ลองเขียนเป็นรายงานแทนสิ และเราเองก็จะได้จัดลำดับความคิดไปด้วยในตัว เพราะบางเรื่องหากพูดอาจจะงงไม่เข้าใจ แต่ก็สามารถอธิบายได้ด้วยภาพหรือกราฟ และหากจำเป็นต้องเขียนอธิบายเพิ่มก็อย่าลืม ! ทำให้สั้นและกระชับนะค่ะพี่น้องค่ะ
เป็นงัยกันบ้างกับวิธีการรายงานเจ้านายอย่างมืออาชีพที่นำมาฝากกัน สิ่งสำคัญต้องฝึกทำบ่อย ๆ นะค่ะ แล้วท่านจะเป็นมืออาชีพในการรายงาน ว่าแล้วก็กลับไปฝึกก่อนนะอย่างเป็นมือโปรบ้าง.........
วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552
เกษตรอินทรีย์ที่ภูฐาน
ช่วงต้นเดือนกันยายน ได้มีโอกาสไปภูฐานจัดอบรมควบสองเรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องการบริหารจัดการระบบการตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรส่งออกของ FAO ส่วนเรื่องที่สองเป็นเรื่องห่วงโซ่ข้าวเกษตรอินทรีย์ของมูลนิธิสายใยแผ่นดิน
ก่อนจะไปก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะหลายคนพูดถึงภูฐาน แต่ไม่ค่อยมีใครได้เคยไป แต่พอไปถึงก็รู้สึกคล้ายๆ กับบางประเทศที่เคยไปมาแล้ว เพียงแต่อากาศอาจจะเบาบาง (เพราะอยู่บนที่สูง) หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่า อากาศที่บางเป็นอย่างไร คือ จะเรียกว่า มีออกซิเจนน้อยก็ได้ ดังนั้น เวลาเดินขึ้นเขา หรือแค่ขึ้นบรรได ก็จะรู้สึกเหนื่อย หายใจได้ไม่เต็มปอด คงคล้ายๆ กับหลายคนที่เคยชินที่อยู่ต่างจังหวัด พอเข้ากรุงเทพก็มักจะบ่นว่า หายใจไม่เต็มปอด
ลองดูวิวของประเทศเขาเสียก่อน และว่างๆ จะเขียนเล่าให้ฟังต่อ
ก่อนจะไปก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะหลายคนพูดถึงภูฐาน แต่ไม่ค่อยมีใครได้เคยไป แต่พอไปถึงก็รู้สึกคล้ายๆ กับบางประเทศที่เคยไปมาแล้ว เพียงแต่อากาศอาจจะเบาบาง (เพราะอยู่บนที่สูง) หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่า อากาศที่บางเป็นอย่างไร คือ จะเรียกว่า มีออกซิเจนน้อยก็ได้ ดังนั้น เวลาเดินขึ้นเขา หรือแค่ขึ้นบรรได ก็จะรู้สึกเหนื่อย หายใจได้ไม่เต็มปอด คงคล้ายๆ กับหลายคนที่เคยชินที่อยู่ต่างจังหวัด พอเข้ากรุงเทพก็มักจะบ่นว่า หายใจไม่เต็มปอด
ลองดูวิวของประเทศเขาเสียก่อน และว่างๆ จะเขียนเล่าให้ฟังต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)