เรียลลิตี้โชว์ ไฮโซไร้สารพิษ : ปฏิบัติการติดตามรัก นักล่าฝัน ….ไม่ใช่นักส่งเสริมฯนะจ๊ะ
เป็นนวนิยาย โดยผู้แต่ง คือ ชาครียา
ตราบใดที่สินค้าเกษตรอินทรีย์ ยังเข้าไม่ถึงผู้บริโภคส่วนใหญ่ เกษตรกรจะไม่ปลูกผักที่ขายไม่ได้ ดังนั้นคนส่วนใหญ่ก็ยังต้องทนกินผักใช้สารเคมี โดยไม่มีทางเลือกและเข้าไม่ถึงผักอินทรีย์อยู่นั่นเอง
เป็นนวนิยาย โดยผู้แต่ง คือ ชาครียา
ตราบใดที่สินค้าเกษตรอินทรีย์ ยังเข้าไม่ถึงผู้บริโภคส่วนใหญ่ เกษตรกรจะไม่ปลูกผักที่ขายไม่ได้ ดังนั้นคนส่วนใหญ่ก็ยังต้องทนกินผักใช้สารเคมี โดยไม่มีทางเลือกและเข้าไม่ถึงผักอินทรีย์อยู่นั่นเอง
“เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันโปรโมตเกษตรอินทรีย์ไง ถ้าเรียลลิตี้โชว์ไฮโซไร้สารพิษ ได้ออกอากาศ คนต้องรู้จักเกษตรอินทรีย์มากขึ้น ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ก็จะ บูมๆ ๆ”
....พลวัต พูดเสริมพร้อมทำมือและท่าทางประกอบ
ประโยคแบบนี้ จะพบเห็นได้ในนิยายเรื่องนี้ เป็นความแปลกใหม่สำหรับคนที่ชอบอ่านนวนิยายเลยทีเดียว ไม่มีนวนิยายมากนัก ที่จะดึงเอาเรื่องเกษตรอินทรีย์ มาเขียนเป็นนวนิยาย ได้สนุกสนาน ไปพร้อมๆ กับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์
นวนิยายเรื่องนี้ มีความน่าสนใจอยู่ที่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเกษตรอินทรีย์ ซึ่งพระเอกของเรื่อง คือ ภาวิต เป็นทายาทนักธุรกิจพันล้านและเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ที่มากไปด้วยความสามารถด้านการจัดการและบริหารธุรกิจ อยู่มาวันหนึ่ง ภาวิต ตัดสินใจทิ้งธุรกิจของพ่อ เพื่อผันตัวเองไปทำเกษตรอินทรีย์ ด้วยแรงบันดาลใจทั้งหมดมาจาก คุณหญิงแม่ ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ภาวิตจึงต้องการให้คุณหญิงแม่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีและได้กินอาหาร พืชผักอินทรีย์ ที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยจริงๆ “สวนเกษตรอินทรีย์คุณหญิงแม่” จึงเกิดขึ้นในเวลาต่อมา ท่ามกลางความขัดแย้งของผู้เป็นพ่อเจ้าของธุรกิจพันล้านที่มีทายาทเป็นลูกชายเพียงคนเดียว
เรื่องราวความยุ่งยากไม่ได้หมดลงเพียงความขัดแย้งระหว่างผู้เป็นพ่อและลูกชายเท่านั้น แต่งานนี้ ภาวิตมีความตั้งใจจริงที่จะทำ สวนเกษตรอินทรีย์เพื่อขอรับรองจากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ หรือ มกท. กันเลยทีเดียว ความยากอยู่ที่เขาจะทำอย่างไร ในเมื่อตัวเขาเองไม่รู้จักเกษตรอินทรีย์ที่จับต้องได้ในภาคสนามเลย นอกจากข้อมูลที่หาได้จากอินเทอร์เน็ตเท่านั้น “การทำเกษตรอินทรีย์มันเป็นการวัดใจและวัดความอดทนของตัวเองและคนรอบข้างครับ” ประโยคเปิดนี้จึงเกิดขึ้น..และมาจากปากของลูกเกษตรอินทรีย์พันธุ์แท้
นอกจากนั้นเนื้อหาในนิยายเรื่องนี้ จะมีการกล่าวถึงขั้นตอนการทำเกษตรอินทรีย์โดยคร่าวๆ วิธีการเตรียมเพื่อตัวเพื่อขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์และสอดแทรกแนวคิด การทำเกษตรประณีตและเกษตรอินทรีย์ไว้ด้วยกัน โดยมีตัวละครที่เป็นผู้รู้เกี่ยวกับเกษตรประณีตเป็นอย่างดี คือ ลุงรักษ์และลูกชาย “ต้นน้ำ” อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่เป็นลูกเกษตรอินทรีย์พันธุ์แท้ หล่อ เท่ห์ คม เข้ม งานนี้มีพระเอกสองคนเลยทีเดียว เรื่องราว สนุกสนานยังมีอยู่มากในเรื่องนี้ แม้กระทั่งการจะหาเชื้อจุลินทรีย์จากธรรมชาติจริงๆ ยังถูกนำมาพูดถึงในนวนิยายเรื่องนี้ ถ้าได้อ่านจะต้องอ่านไปยิ้มไปกับคณะทัวร์ตามล่าหาจุลินทรีย์ นี้แน่นอน
แน่นอน นวนิยายจะสนุก ต้องครบรส จะพูดถึงแต่เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์อย่างเดียวก็คงไม่ได้ ถ้าจะเป็นแบบนั้น เราก็คงต้องเข้าไปอ่านหนังสือ ของพี่บุ๊งแทนหละจ้า ....ดังนั้น เพื่อให้มีความบันเทิงอยู่บ้างตามคอนเซปต์นิยาย จึงต้องมีนางเอกและตัวประกอบช่วยชูโรงใน การดำเนินเรื่องเพื่อความบันเทิงด้วย “กุ๊กไก่” นักศึกษาปริญญาโทปีสุดท้าย ที่ต้องมีผลงานวิจัยด้านสื่อสารมวลชนให้เสร็จภายในปีนี้ ด้วยการทำสารคดีโทรทัศน์ “ช่องทางการสื่อสารเรื่องเกษตรอินทรีย์ต่อสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ” จำเป็นต้องเข้ามามีบทบาท การสร้างเรียลลิตี้โชว์ในการทำเกษตรอินทรีย์ของพระเอกภาวิตให้กับพลวัต ผู้เป็นต้นคิดเรื่องนี้และยังเป็น ผู้ยื่นข้อเสนอให้เธอทำสารคดีเรื่องนี้แลกกับเรียลลิตี้โชว์ที่จะออกทางทีวีของเขา เรื่องราวทะเลาะเบาะแว้ง และกุ๊กกิ๊ก จึงพอมีให้เห็น อยู่บ้าง
แต่คนที่น่ารักที่สุด คือ คุณหญิงแม่ ออกแนว แหวกกระแสของสังคมและเป็นตัวชูโรงของเรื่อง
สุดท้ายภาวิตจะได้การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์หรือไม่ กุ๊กไก่ จะได้สารคดีไปส่งอาจารย์ หรือ พลวัตจะได้เรียลลิตี้โชว์ไปทำรายการหรือไม่นั้น
เราคงต้องมาติดตามกัน....ว่าเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร.....
ไปหามาอ่านซะนะคะ เจ้าหน้าที่ส่งเสริม-นักล่าฝัน ทั้งหลาย....
5 ความคิดเห็น:
review ยังไม่เสร็จ จะมาใหม่
วันนี้ review เสร็จแล้ว อยากรู้เพิ่มเห็นทีต้องไปหามาอ่านนะจ๊ะ ทุกคน
อ่านแล้ว คนเขียนเค้ารู้จริง แต่เพื่อนๆ นักส่งเสริมลองอ่านดูนะ ว่ามีเหตุการณ์อะไรที่เราคอยเจอจริงบ้าง แต่ก็คงขาดแต่ตัวพระเอกนี้ละ ที่ยังไม่เจอ อิอิ
ฮ่า!!! ทำไมเขาไม่มาปรึกษากรีนเนทด้วยล่ะ
กรีนเนท ผู้ปิดทองหลังพระ...เอิ๊กกก
จะแสดงตนได้อย่างไรกันเล่า!!!
แสดงความคิดเห็น