วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เงามฤตยู

Review หนังสือเรื่อง เงามฤตยู โดย มัทนา อภัยมูล
ผู้แปร วิฑูรย์ ปัญญากุล

มนุษย์ที่เกิดมีอำนาจล้นพ้นในการเปลี่ยนแปลงโลก
ทำไมมนุษย์ผู้ชาญฉลาดจึงพยายามกำจัดสิ่งมีชีวิต ที่ตนไม่ต้องการเพียงไม่กี่ชนิด ด้วยการทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและทำให้ตัวเองล้มตาย
สารมฤตยู ลักษณะที่น่ากลัวมากที่สุดข้อหนึ่งของ ดีดีที และสารเคมีประเภทเดียวกันคือ การถ่ายทอดจากสัตว์ชนิดหนึ่งไปสู่สัตว์อีกชนิดหนึ่งผ่านทางห่วงโซ่อาหาร เช่น การมีฟางข้าวที่มี ดีดีที ที่ 7-8 พีพีเอ็ม ไปเป็นอาหารวัว นมวัวจะมี ดีดีที ประมาณ 3 พีพีเอ็ม แต่เนยที่ทำจากนมอาจมีความเข้มข้นของ ดีดีที ที่มากกว่า 65 พีพีเอ็ม ยาพิษนี้อาจถ่ายทอดจากมารดาสู่ทารกได้ รวมถึง นกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมดที่กินไส้เดือนหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในดินเป็นอาหารมีโอกาสเผชิญชะตากรรมทั้งสิ้น
การปนเปื้อนของสารพิษบนโลกไม่ได้มาจาการฉีดพ่นยาอย่างเข้มข้นเท่านั้น การฉีดพ่นยังไม่สำคัญเท่าการสะสมยาทีละเล็กทีละน้อย วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ด้วยซ้ำ น้ำซึ่งหยดลงมาไม่ขาดสาย ทำให้หินที่แข็งที่สุดกร่อนได้ฉันใด การได้รับสาเคมีอันตรายตั้งแต่เกิดจนตายก็อาจนำหายนะมาสู่มนุษย์ได้ฉันนั้น
สิ่งที่มนุษย์กำลังประสบ ความจริงที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงแต่ปรากฏให้เห็นชัดแจ้งก็คือ ธรรมชาติไม่ได้เปลี่ยนได้ง่ายๆ และเหล่าแมลงก็กำลังหาวิธีสู้กับการถูกโจมตีด้วยสารเคมีอยู่
“ ทุกวันนี้หลายแห่ง ไม่สนใจสมดุลของธรรมชาติ ” สมดุลของธรรมชาติไม่ใช่สิ่งตายตัว หากลื่นไหลและเปลี่ยนแปลงไปมาเสมอ มีการปรับตัวอยู่เรื่อยๆ มนุษย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของสมดุลนี้
ข้อเท็จจริงที่สำคัญ 2 ประการที่การปราบแมลงยุคใหม่มอข้าม คือ
1. การปราบแมลงที่ได้ผลดีอย่างแท้จริงเป็นการปราบของธรรมชาติไม่ใช่มนุษย์ จำนวนประชากรจะถูกควบคุมโดยสิ่งที่นักนิเวศวิทยาเรียกว่า การด้านทานของสิ่งแวดล้อม “ ปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดในการป้องกันแมลงล้นโลกก็คือ การที่แมลงมักทำสงครามกันเองเสมอ”
2. แมลงแต่ละชนิดมีพลังมหาศาล ในการแพร่พันธุ์ เมือการต้านทานของสิ่งมีชีวิตอ่อนแอลงความสามารถในการแพร่พันธุ์ของสิ่งมีชีวิตหลายชนิดนั้นเกินความสามารถที่เราจะคาดเดาได้

มีแนวทางเลือกมากมายหลากหลายที่ใช้แทนการปราบแมลงด้วยสารเคมีได้ ซึ่งบ้างก็ใช้และประสลผลสำเร็จแล้ว บ้างยังอยู่ระหว่างการทดลองในห้องปฏิบัติการ ขณะที่บ้างยังเป็นเพียงแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์ซึ่งรอโอกาสในการทดสอบ
เราคงไม่อยากให้ประเทศของเรากลายเป็นเหมือนเรื่องเงามฤตยู ที่มีตอนหนึ่งบอกเล่าถึง นิทานสำหรับวันพรุ่ง ที่มีเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีภัยพิบัติแปลกประหลาดคืบคลานเข้ามา ทำให้ทุกอย่างเข้ามาเปลี่ยนแปรคำสาปชั่วร้ายบางอย่างครอบคลุมชุมชนแห่งนี้ โลกภัยลกลับคร่าชีวิตฝูงไก่ วัวควายและแกะป่วยไข้ล้มตาย เงามฤตยูล้มตายทุกหนแห่ง พวกหมอต่างงงงวยกับอาการใหม่ๆ ที่คนไข้ประสบ หลายคนสิ้นชีวิตเฉียบพลันโดยไร้สาเหตุ ไม่เฉพาะผู้ใหญ่ แต่ยังมีเด็กๆ ซึ่งนั่งเล่นอยู่ดีๆ ก็ล้มป่วยและเสียชีวิตภายในไม่กี่ชั่วโมง มันเป็นเรื่องเศร้าที่ คิดดูแล้วมันอยู่ใกล้ตัวเรามาก ทุกวันที่กิน ทุกวันที่สูดอากาศหายใจ ทุกวันที่สัมผัส กับสารเคมีทั้งที่โดยตรงและทางอ้อม
โดย มัทนา อภัยมูล

ไม่มีความคิดเห็น: